ขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ เพื่อเราจะได้รู้จักกันมากขึ้น ผมชื่อวิโรจน์ เย็นสวัสดิ์ เป็นคนบ้านห้วยค้อ อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น อาชีพปัจจุบันทำนา เป็นเกษตร อดีตที่ผ่านมาเป็น CEO Prosoft Group ปัจจุบันทำหน้าที่เพียงที่ปรึกษาเท่านั้น
ผมเกิดในครอบครัวที่ยากจน พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย เป็นชาวนา ชีวิตผมก็ได้สัมผัสความเป็นชาวนาที่ยากจนมาตั้งแต่เกิด ต้องช่วยเหลือพ่อแม่ทำไร่ทำนาตั้งแต่ยังเด็กๆ ธรรมชาติได้สอนให้ผมเป็นคนที่อดทน ขยันขันแข็ง พร้อมจะต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคที่รออยู่ในวันข้างหน้า
ผมจบการศึกษาสูงสุดที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะบริหารธุรกิจ สาขาบัญชี ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชีวิตของผม ทำให้ผมต้องรู้จักดูแลตัวเอง รับผิดชอบต่อตัวเอง แม้ว่าจะเข้าเรียนบ้างไม่ได้เข้าเรียนบ้าง ทำให้เรารู้จักเรียนรู้ด้วยตัวเอง การเรียนหนังสือที่นี่มีเพื่อนน้อยมาก เพราะเวลาไปเรียนไม่เคยเจอคนเดิมเลย ห้องเรียนไม่พอ ไม่เคยเห็นหน้าอาจารย์ที่สอนเพราะคนเรียนเยอะมากในแต่ละวิชา เห็นหน้าอาจารย์ทางทีวีวงจรปิดเท่านั้น
เจอผู้คนก็แต่หน้าใหม่ๆ ตลอด บวกกับตนเองเป็นคนขี้อาย ไม่กล้าถามใครเลย ตลอดเวลาการเรียนหนังสือที่รามคำแหงเลยไม่มีเพื่อนเลยสักคน นอกจากเพื่อนที่จบมัธยมมาด้วยกัน นั่นคือต้นทุนที่เสียโอกาสอย่างมาก เพราะความไม่มีเพื่อน
หลังจบบัญชีที่รามคำแหง ผมได้ทำงานทางด้านบัญชีมาโดยตลอด ซึ่งเริ่มตั้งแต่การทำงานในสำนักงานบัญชี พนักงานสอบบัญชี สมุห์บัญชี ผู้จัดการฝ่ายบัญชี และเป็นที่ปรึกษาบริษัทต่างๆ งานทางด้านบัญชีได้สอนผมให้รู้จักเป็นคนละเอียดรอบคอบ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อผมได้มีโอกาสได้มาเป็นผู้ประกอบการ SME
เมื่ออายุ 31 ปีผมได้เริ่มก่อตั้งบริษัท โปรซอฟท์ คอมเทค จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจซอฟต์แวร์ เป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บัญชีเพื่อจำหน่ายให้ลูกค้าทั่วประเทศ เปิดบริษัทได้ 2 ปีก็ต้องมาเจอวิกฤติเศรษฐกิจปี 40 ซึ่งทำให้ผมได้ใช้ประสบการณ์ชีวิตตั้งแต่เด็กเข้ามาแก้ปัญหาต่างๆ ให้ผ่านมาได้จนถึงทุกวันนี้
ขอบคุณความยากจนที่ทำให้ผมเป็นคนอดทน เข้มแข็งเพื่อยืนหยัดต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างโชกโชน ทำให้ผมเข้าใจสัจธรรมของชีวิตว่าไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป
ตลอดเวลา 19 ปีที่ทำงานโปรซอฟท์ ผมได้ใช้หัวใจทำงานอย่างหนักในทุกๆ วัน ผมขยันทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับน้องๆ ที่น่ารักทุกคน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอด ต้องขอขอบคุณทีมงานโปรซอฟท์ทุกคนที่ช่วยกันสร้างองค์กรแห่งนี้ให้แข็งแกร่งขึ้นมาเป็นลำดับ ผมจะเก็บความทรงจำที่พวกเรา ได้ร่วมกันสร้างโปรซอฟท์ขึ้นมาจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต
4 กันยายน 2557 ครบรอบ 19 ปีจัดตั้งบริษัท ผมได้ลาออกจาก CEO Prosoft เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามา
บริหาร Prosoft Group แทนอย่างเต็มตัว เพราะผมคิดว่าคนรุ่นใหม่เป็นคนที่มีความพร้อมทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความรู้ความสามารถ ความมุ่งมั่น ขยัน อดทน เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อมาสร้างนวัตกรรมที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ ส่วนผมมีภาระกิจที่ยิ่งใหญ่มากเพราะตั้งใจจะไปทำโครงการ "เพื่อนช่วยเพื่อน" ให้ประสบความสำเร็จ
ปัจจุบันผมได้ผันตัวเองไปเป็นชาวนาเต็มตัวที่แม่ออน-สันกำแพง ในปีนี้ผมได้เริ่มปลูกข้าวอินทรีย์ ข้าวไรซ์เบอร์รีบนที่นา 100 ไร่ เพื่อนำมาแบ่งปันให้พนักงานโปรซอฟท์ และลูกค้าโปรซอฟท์ผู้มีพระคุณ ที่ดินแห่งนี้โปรซอฟท์ได้ลงทุนซื้อมาในราคา 85 ล้านบาทเพื่อนำมาทำเป็นโครงการ "Creative Park" แหล่งสร้างโอกาส สร้างคน สร้างงานให้กับสังคม ได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งงานที่ดีๆ ในต่างจังหวัด ใน Creative Park แห่งนี้จะมีศูนย์พัฒนาขีดความสามารถทางด้านไอทีให้กับ SME ที่มาจากทั่วประเทศตามโครงการ "เพื่อนช่วยเพื่อน"
Credit : คุณวิโรจน์ เย็นสวัสดิ์ | Facebook